• Welcome to ลงประกาศฟรี โปรโมทเว็บ SEO SMF PBN.
 

⚡👉การเจาะสำรวจดิน (Soil Boring Test) 🌏จุดเริ่มต้นที่ดีของ✨การก่อสร้าง🦖

Started by Panitsupa, Jul 31, 2024, 07:03 AM

Previous topic - Next topic

Panitsupa

สภาพชั้นดินในหลายพื้นที่ของประเทศไทยนั้นอาจมีความแปรปรวนของชั้นดิน 📌ทำให้สภาพพื้นที่แตกต่างไปจากพื้นที่ทั่วไป ✨เช่น ชั้นทรายหลวมผิดปกติ มีชั้นดินเหนียวอ่อน หรือระดับความลึกของชั้นดินที่แข็งแรงมีความผันแปรสูง 🦖เป็นต้น จากลักษณะของชั้นดินนี้ อาจทำให้ฐานรากพังได้ 🌏ซึ่งทำให้เกิดความเสียหายอย่างคาดไม่ถึง ก่อนที่วิศวกรจะทำการออกแบบฐานรากให้ดีและเหมาะสมนั้น ✨จึงต้องจัดให้มีการเจาะสำรวจดินอย่างเพียงพอ เพื่อให้การออกแบบสิ่งก่อสร้างต่าง ๆ เป็นไปอย่างละเอียดรอบครอบ ถูกต้องตามหลักวิศวกรรม 🥇เพื่อการวิเคราะห์ดินจากประสบการณ์และการสังเกต 🥇เมื่อทราบข้อมูลเกี่ยวกับดินในส่วนใดแล้ว จะต้องมีการวางแผนการเจาะดิน เพื่อให้ประหยัดทั้งเวลาและค่าใช้จ่าย พร้อมกับได้ข้อมูลที่แม่นยำ 🎯เพราะดินมีคุณสมบัติที่ซับซ้อนและแตกต่างกันตามสถานที่ 📌จึงยังไม่มีวิธีใดที่เหมาะกับดินทุกประเภท🎯



โครงสร้างหลาย ๆ อย่าง 👉จะมีความแข็งแรง ต้องรองรับด้วยฐานรากที่มั่นคง ✨ในการออกแบบฐานราก การสำรวจชั้นดินมีบทบาทสำคัญเป็นอย่างมาก 👉ที่จะทำให้วิศวกรสามารถออกแบบฐานรากได้อย่างปลอดภัยตามหลักวิศวกรรม 🛒สำหรับขอบเขตและรายละเอียดของงานสำรวจขึ้นอยู่กับลักษณะโครงการ 🥇และสภาพของชั้นดิน 🌏โดยวิศวกรออกแบบควรกำหนดรายละเอียดการสำรวจเพื่อให้ได้ข้อมูลที่เพียงพอต่อการวิเคราะห์และออกแบบ 📌บริการทดสอบดินและจัดทำรายงานวิเคราะห์เสาเข็มโดยผู้เชี่ยวชาญ📢

การสำรวจดินเบื้องต้น 🥇เป็นการเจาะหรือขุดดินเพียงเล็กน้อย 👉เพื่อต้องการทราบชนิดของดิน ลำดับชั้นดิน 🎯ระดับน้ำใต้ดินและอื่น ๆ อันจะเป็นประโยชน์ในการวางแผนและเตรียมเครื่องมือได้อย่างเหมาะสม ⚡ส่วนการเจาะดินโดยละเอียดนั้น เป็นการวางแผนการเจาะชั้นดินอย่างละเอียด 🥇โดยทั่วไปจะระบุ จุดเจาะดิน จำนวนหลุมเจาะดิน ความลึกของหลุมเจาะ🌏 และการทดสอบที่ต้องดำเนินการ ✅โดยปกติแล้วจะต้องการข้อมูลสำหรับการวิเคราะห์ความแข็งแรงของดินและการคำนวณการทรุดตัวของสิ่งก่อสร้าง🎯

🌏⚡✨การเก็บตัวอย่างดินมี 2 ลักษณะ คือ📢🌏⚡

⚡1. ดินที่ถูกรบกวน (Disturbed Sample) 📌เป็นดินที่ถูกกระทบกระเทือน ⚡จนทำให้โครงสร้างและการจับตัวของเม็ดดินเปลี่ยนแปลง 🦖หรืออาจจะสูญเสียความชื้นในดิน อาจเกิดจากวิธีการเก็บตัวอย่างดิน🌏 กระบวนการขนส่ง และการเก็บรักษาตัวอย่างดิน 🎯ซึ่งได้แก่ตัวอย่างดินที่เก็บด้วยสว่านมือ 🛒และตัวอย่างดินที่ได้จากการตอกวัดค่าด้วยกระบอกผ่า ตัวอย่างดินเหล่านี้ไม่สามารถใช้ทดสอบกำลังรับน้ำหนักได้ 🛒เนื่องจากดินได้รับผลกระทบจากการกระแทกและการอัด 🦖ซึ่งโครงสร้างดินเปลี่ยนแปลง แต่สามารถใช้จำแนกประเภทของดิน⚡

📢2. ดินที่ไม่ถูกรบกวน (Undisturbed Sample) 📢เป็นตัวอย่างดินที่เก็บในสนาม 📢โดยพยายามให้โครงสร้างและองค์ประกอบของดินยังคงเหมือนเดิมตามธรรมชาติ 📌ซึ่งได้แก่ตัวอย่างดินที่เก็บจากกระบอกบางเส้นผ่าศูนย์กลางตั้งแต่ 3 นิ้วขึ้นไป 🦖ถือว่าเป็นตัวอย่างดินคุณภาพสูง 👉สามารถนำไปทดสอบคุณสมบัติต่าง ๆ ในห้องปฏิบัติการเกือบทุกอย่าง 👉รวมถึงคุณสมบัติในความแข็งแรงและคุณสมบัติในการรับน้ำหนักของดิน✅